บริษัทน้องใหม่เจ้าของรางวัลโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อคุณภาพชีวิตดีเด่น ประจำปี 2561 (ASA Real Estate Awards 2018) เพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย

     ช่วงเวลาที่ผ่านมาแวดวงอสังหาฯ เรียกว่าเติบโต และพัฒนาไปมากเลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่จะมีบริษัทน้องใหม่เข้ายึดครองพื้นที่ในใจใครหลายๆคน และนับเป็นความภาคภูมิอย่างมากของผู้บริหารมากความสามารถอย่าง 'คุณสุธี ลิมปนชัยพรกุล' ประธานอำนวยการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด (Nye Estate) เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในปัจจุบันนี้ อาทิ Quarter31 , Quarter39  และ คราม สุขุมวิท 26 (KRAAM Sukhumvit 26) จนได้รับรางวัลการันตีมากมายหลายรางวัลด้วยกันทั้งระดับนานาชาติและระดับประเทศ

ประสบการณ์กว่า 6 ปีแห่งอาณาจักร Nye Estate

     หนึ่งในดีเวลลอปเปอร์น้องใหม่ที่กล้าฉีกกรอบ เลือกที่จะแตกต่างจนน่าจับตามอง ต้องยกให้นั้นก็คือ 'นายณ์ เอสเตท' ที่ออกมาประกาศตัวในวงการในฐานะ'บูทีค ดีเวลลอปเปอร์' ที่เป็นมากกว่าบริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพราะ นายณ์ เอสเตทใส่ใจและลงลึกในทุกรายละเอียดของทุกโครงการแบบถึงแก่น ด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวผสมผสานกับการเลือกใช้วัสดุชั้นดี บวกกับนวัตกรรมการออกแบบที่เหนือชั้นและความใส่ใจในการสร้างพื้นที่สีเขียวอย่างลงตัว

ด้วยความสามารถด้านวิศวกรโยธาฯ ที่ผันตัวเข้าสู่วงการพัฒนาอสังหาฯ และมาพร้อมความรู้ และประสบการณ์ทางด้าน Real Estate Management จากสหรัฐอเมริกา ความเชี่ยวชาญ ประกอบกับประสบการณ์การทำงานกับโครงการยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย สำนักงาน โรงแรม และรับผิดชอบพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรีหลากหลายโครงการในประเทศไทย

'คุณสุธี ลิมปนชัยพรกุล' ประธานอำนวยการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด (Nye Estate)

     ทำให้ คุณสุธี ลิมปนชัยพรกุล ผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญของการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมหลายหลายโครงการภายใต้การบริหารของบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด กลายเป็นอีกหนึ่งผู้บริหารระดับแถวหน้าที่น่าจับตามองในวงการอสังหาฯในประเทศไทย "จากประสบการณ์การทำงานทั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และในประเทศไทยเอง ทำให้ผมมีความรู้ความเข้าใจตลาด กระบวนการทำงาน ในการพัฒนาโครงการระดับลักซ์ชัวรีอย่างแท้จริง ประกอบกับกว่า 6 ปีที่ของนายณ์ เอสเตท เราเน้นทำโครงการที่มีความลักซ์ชัวรี ตอบโจทย์ทั้งในด้านของ Residential และ Commercialโดยมุ่งเน้นงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น แต่คงไว้ซึ่งความสุขอย่างยั่งยืน"

ความสำเร็จของนายณ์ เอสเตท (Nye Estate)

     ด้วยทีมงานคุณภาพที่ล้วนมีประสบการณ์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ จึงสามารถพัฒนาโครงการ ฃภายใต้จุดยืนของ นายณ์ เอสเตท ที่มุ่งมั่นรังสรรค์ความสมบูรณ์แบบ ด้วยการสรรสร้างผลงานที่มีคุณภาพในทุกขั้นตอนอย่างแท้จริง

"นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) วาง Positioning ของบริษัทในฐานะBoutique Developerโดยเราเน้นตลาดในระดับลักซ์ชัวรี่ คือ พัฒนาโครงการที่โดดเด่นทางด้านแนวคิดและดีไซน์ที่แตกต่างและมีคุณภาพ ตอบโจทย์ด้านฟังก์ชั่นการใช้งาน แนวความคิด ทำเลที่ดี ปัจจุบันนี้เรามีโครงการที่กำลังดูแลพัฒนาอยู่ 5-6 โครงการ และแล้วเสร็จแล้ว 6โครงการ ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับบริษัทอสังหาฯ ที่เพิ่งก่อตั้งมาได้เพียงแค่ 6 ปี"

จุดเด่นของโครงการภายใต้การบริหารของนายณ์ เอสเตท (Nye Estate)

     "ขอยกตัวอย่างที่โครงการ คราม สุขุมวิท26 (KRAAM Sukhumvit 26) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ที่ก่อสร้างขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ของคำว่า'บ้าน' ที่เรามองมากกว่าแค่การพักอาศัย ด้วยดีไซน์ให้ตอบโจทย์ในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานได้จริงเสมือนอยู่บ้าน เพราะเราไม่ได้มองแค่การขายได้ของแต่ละห้องในโครงการ แต่เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยความที่เราใช้เวลาทุ่มเทอย่างมากในทุกๆโครงการ ทำให้ในทุกๆดีเทลมี มีความคิด มีเรื่องราวซ่อนอยู่ ตั้งแต่ซื้อที่ดินมาจนถึงกระบวนการพัฒนาโครงการ บางบริษัทอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่เราใช้เวลาเป็นปีในการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา

 เพราะคนที่อยู่บ้านกับคอนโดฯ มีความแตกต่างกัน บ้านจะให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย อยู่สบาย มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกและมีแสงธรรมชาติเข้าถึง นี่เป็นแนวคิดหลักที่ทำให้ ครามแตกต่างจากคอนโดฯอื่นๆทั่วไป กับโจทย์สุดท้าทายที่ว่า "ทำอย่างไรให้ ครามเหมือนบ้านให้ได้?" จึงเป็นสาเหตุที่ทุกห้องในโครงการไม่มีผนังติดกัน (No Common Wall) และเกิดเป็นช่องว่างระหว่างห้อง (Yard Area)  เพื่อช่วยเรื่องของทิศทางลมให้อากาศถ่ายเทได้มากเหมือนบ้าน รวมถึงลดเสียงรบกวนที่อาจจะเกิดจากห้องข้างเคียง นอกจากนี้บ้านยังมีความร่มรื่นเพราะสามารถปลูกต้นไม้ เพื่อป้องกันแสงแดด และบดบังแสงให้ความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี ที่โครงการ ครามให้ความสำคัญตรงจุดนี้จึงได้เลือกใช้กระจกแบบ Triple Glazed Windows หนา 3ชั้น ที่ช่วยสะท้อนความร้อนได้ด รวมถึงต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปี ที่โครงการอนุรักษ์เอาไว้ตั้งแต่ได้ที่ดินแปลงนี้มา ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณหน้าโครงการบนพื้นที่สีเขียวของโครงการกว่า 1 ไร่เต็มๆ

ต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปี ที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณหน้าโครงการ KRAAM สุขุมวิท 26

และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่ทำให้ คราม เหมือนบ้านมากขึ้น คือทุกยูนิตมีที่จอดรถส่วนตัว และบริเวณที่จอดรถส่วนตัวจะมีตู้สำหรับเก็บของ เสมือนเราจอดรถอยู่ที่โรงจอดรถที่บ้านเลยทีเดียว"

ความภูมิใจของ นายณ์ เอสเตท (Nye Estate)

นอกจากโครงการน้องใหม่ล่าสุดอย่างโครงการ ครามสุขุมวิท 26 แล้วนั้น นายณ์ เอสเตทเองยังภูมิใจที่ได้รับพระราชทานรางวัล จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ถึง 2 รางวัล อันได้แก่ รางวัลผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อคุณภาพชีวิตดีเด่น ประจำปี 2561 (ASA Real Estate Awards 2018) เพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมถึงโครงการ Quarter 39 สุขุมวิท 39ที่ได้รับพระราชทานรางวัลชนะเลิศโครงการอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่พักอาศัย ระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป ประจำปี 2561

บรรยากาศภายในโครงการ Quater31 สุขุมวิท 31

บรรยากาศภายในโครงการ Quater39 สุขุมวิท 39

     จุดเด่นของโครงการ Quarter 39 สุขุมวิท 39 ซึ่งมีแนวคิดเดียวกับโครงการควอร์เตอร์ 31 (Quarter31) เพราะถือเป็นโครงการภายใต้ Quarter Collection ถือเป็นโครงการที่กล้าคิดแตกต่าง เพราะแทนที่จะพัฒนาเป็นคอนโนมิเนียมเหมือนโครงการทั่วไปในสุขุมวิท เพราะที่ดินในย่านนี้หายากและราคาสูง แต่ นายณ์ เอสเตท กล้าที่จะพัฒนาโครงการแนวราบเพราะบริษัทฯเชื่อว่ามีกลุ่มลูกค้าที่ปรารถนาจะมีบ้านพักอาศัยFree Hold ใจกลางเมืองที่หายากขึ้นทุกวัน โดยนายณ์ เอสเตท นำแนวคิดแบบคลัสเตอร์โฮมมาออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 380 – 480 ตรม. พร้อมที่จอดรถใต้ดิน 4-5 คัน และลิฟท์ส่วนตัวทุกยูนิต พร้อมรองรับสัตว์เลี้ยง (Pet- Friendly) และพื้นที่ส่วนและสระว่ายน้ำกว่า 1 ไร่ โดยออกแบบให้ Living room เข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้ทันที เพราะเราพบว่าหนึ่งในปัญหาคือลูกค้าอยากมีสระว่ายน้ำและสวนแต่ไม่อยากดูแล ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ล้วนสะท้อนความเป็นนายณ์ เอสเตทที่แตกต่างไม่เหมือนใคร

สิ่งที่ลูกบ้านของ นายณ์ เอสเตท (Nye Estate) จะได้รับ

     นอกจากนายณ์ เอสเตท จะเดินหน้าพัฒนาโครงการคุณภาพอีกหนึ่งภารกิจที่ นายณ์ เอสเตทให้ความสำคัญอย่างมาก คือการพัฒนาบุคลกรเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร และสร้างสรรค์แนวคิดใหม่ในการพัฒนาโครงการเพื่อส่งมอบความสุขอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้า“ในฐานะ บูทีค ดีเวลลอปเปอร์ เราต้องการนำเสนอไอเดียใหม่ๆให้กับตลาด ซึ่งเราสนับสนุนให้ทีมงานได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพราะสิ่งที่เราพัฒนาไม่ใช่แค่การเอาเพียงหนึ่งไอเดียแล้วนำไปพัฒนาต่อในทุกโครงการ แต่สิ่งที่เราทำคือเหมือนงาน Tailor-Made ที่ต้องใช้ฝีมือและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ตลอดเวลา”

ซึ่งจากความทุ่มเททั้งหมดนี้ คุณสุธี เชื่อมั่นว่า ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาสัมผัสโครงการ “เราอาจวาดฝันให้ลูกค้าผ่านไอเดียในกระดาษหรือโฆษณาได้ส่วนหนึ่ง แต่เป้าหมายสูงสุดของเราคือ เมื่อโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์ สิ่งที่ลูกค้าวาดฝันไว้ต้องไม่ลดลง ในทางกลับกันความสุขต้องเพิ่มขึ้นและเป็นความสุขอย่างยั่งยืน เราอยากให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพเพราะเราใส่ใจในทุกรายละเอียดในการพัฒนาโครงการไม่ว่าจะเป็น ทั้งด้านดีไซน์ ฟังก์ชั่น วัสดุที่เลือกใช้ รวมทั้งความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม” คุณสุธีทิ้งท้าย

BY EDITORIAL   JUN 25, 2019

https://th.hellomagazine.com/home-living/sutee-limpanachaipornkul-nye-estate/